จากกรณีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงกรณีพระลิน สุคำพอง และ พระบัวลัย คำพอง พระชาว สปป.ลาว โดยสำนักพุทธฯ ขอเรียนว่า ตามระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าด้วยการออกหนังสือรับรองให้ต่ออายุวีซ่าแก่ชาวต่างประเทศ ผู้เข้ามาศึกษาหรือปฏิบัติธรรมทางพระพุทธศาสนาในประเทศไทย พ.ศ. 2546 ข้อ 13 ชาวต่างประเทศที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกหนังสือรับรองให้ และได้รับการต่ออายุวีซ่าจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
แล้วปรากฏในภายหลังว่า บุคคลนั้นมีคุณสมบัติบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี มีพฤติกรรมอันไม่สมควรที่จะให้อยู่ในประเทศไทยต่อไป จนครบกำหนดเวลาที่ต่อวีซ่าให้ก็ดี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอำนาจที่จะเพิกถอนหนังสือรับรองได้ทันที
ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ดำเนิน ดังนี้
1. ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเพิกถอนหนังสือรับรองของพระ LIN SOUKHAMPHONG (พระลิน สุคำพอง)
2. แจ้งพฤติการณ์ของพระภิกษุ ทั้ง 2 รูป ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าคณะผู้ปกครองให้ระมัดระวังการรับพระภิกษุทั้ง 2 รูป ดังกล่าวเข้าพำนัก
ล่าสุด วันที่ 23 ต.ค. 2567 ที่วัดป่าดอนบ้านเทือน หมู่ 9 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบลูกศิษย์พระลินฯ ชายหญิง 4-5 คน กำลังทำความสะอาดเช็ดถูลานปฏิบัติธรรมถ้ำน้ำตกพญานาคกันตามปกติ แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่เหมือนตอนที่พระลินฯ และพระบัวลัยฯ จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ แต่ก็มีคนที่เลื่อมใสศรัทธาเข้ามาสักการะและแก้บนกับองค์พระนาคปรก รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ และองค์พญานาค ที่ประดิษฐานอยู่หน้าถ้าน้ำตกพญานาค ที่หยุดก่อสร้างทุกอย่างไปแล้ว
ภายหลังจากมีหนังสือเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ฝ่ายธรรมยุต) มีหนังสือแจ้งให้พ้นจากวัดภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 67 ซึ่งพระลินฯและพระบัวลัยฯ น้อมรับคำสั่งตามหนังสือ และได้เดินทางกลับประเทศ สปป.ลาว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 19 ต.ค. 67 และจะเดินทางกลับมาเป็นประธานทอดกฐินที่วัดป่าดอนบ้านเทือน ในวันที่ 27 ต.ค. 67 แต่มีหนังสือขอเพิกถอนวีซ่าจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ส่งไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด และพระผู้ปกครอง พระลิน และพระบัวลัย จึงไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้
ขณะที่ลูกศิษย์ที่ดูลานปฏิบัติธรรมฯ ไม่ขอให้สัมภาษณ์ แต่ขอให้ข้อมูลแทนว่า ในวันที่ 27 ต.ค. 67 ซึ่งเป็นกำหนดการงานทอดกฐินวัดป่าดอนบ้านเทือน ตามกำหนดเดิมพระลิน และพระบัวลัย พร้อมด้วยลูกศิษย์ทั่วทุกสารทิศ จะมาร่วมกันทอดกฐิน แต่คงไม่สามารถเดินทางกลับมาได้แล้ว ทางวัดจึงเปลี่ยนเป็นกฐินสามัคคีของคนในหมู่บ้าน และคนที่เลื่อมใสศรัทธาแทน ส่วนเพิงร้านค้าต่าง ๆ บริเวณทางเข้าวัด ปิดหมดทุกร้าน มีเพียงแม่ค้าลอตเตอรี่แผงเร่ มานั่งเปิดแผงขายอยู่เพียงลำพัง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเร่ขายที่อื่น เนื่องจากไม่มีคนมาทำบุญที่วัดมากเหมือนเดิม