โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10000 บาท เฟส 2 สำหรับความคืบหน้า แจกเงินดิจิทัล 10000 เฟส 2 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีกำหนดนัดประชุมนัดแรก ภายในปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน 2567
โดยโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10000 บาท เฟส 2 ยืนยัน ว่าดำเนินการต่ออย่างแน่นอน โดยกระบวนการในการพัฒนาระบบดิจิทัล วอลเล็ต ก็ยังเดินหน้าอยู่ ส่วนจะเริ่มแจกเงินได้เมื่อไหร่นั้น ขอรอให้การประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คาดว่าภายในเร็วๆ นี้ น่าจะมีความชัดเจนวันและเวลาในการแจกเงิน 10,000 สำหรับโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10000 บาท เฟส 2
กระทรวงการคลัง แบ่งการลงทะเบียนดังนี้
-เฟสแรก แจกเงิน 10,000 ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ คนพิการ จำนวน 14.55 ล้านราย โดยดำเนินการแจกเงินไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567
-เฟสสอง เปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ปิดลงทะเบียนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 ลงทะเบียนไปแล้ว 36 ล้านคน
-สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนเดือนพฤศจิกายน
แจกเงินดิจิทัล 10000 จ่ายซ้ำรอบแรกโอนไม่สำเร็จ 6 หมื่นกว่าราย
สำหรับแจกเงินดิจิทัล 10000 กลุ่มตกหล่นจำนวน 3.8 แสนราย ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 กรมบัญชีกลางได้สั่งจ่ายเงินในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีสิทธิจำนวน 414,908 ราย ประกอบด้วย
การจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมา การจ่ายเงินให้แก่คนพิการที่ได้ดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการหรือแก้ไขข้อมูลบัตรประจำตัวคนพิการเรียบร้อยแล้ว
พบว่า ในรอบการจ่ายเงินซ้ำดังกล่าว ยังมีการจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 64,892 ราย เนื่องจากสาเหตุ ดังนี้
คนพิการ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 5,052 ราย มีสาเหตุจากบัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง และรวมถึงกรณีคนพิการที่ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการมาก่อนทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับเงิน กรมบัญชีกลางจึงได้จ่ายเงินให้คนพิการกลุ่มนี้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน แต่พบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จเป็นจำนวน 4,646 ราย
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 59,840 ราย มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด และเลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง
ในจำนวนนี้รวมถึงกรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการด้วยแต่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุและยังไม่ได้ต่ออายุบัตรภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับการจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามสิทธิของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เมื่อพบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ