ขณะดำรงพระอิศริยยศเป็นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ ส่งไปราชทานสัมภาษณ์และฉายพระฉายาลักษณ์ ให้กองบรรณาธิการนิตยสารดิฉันนะคะตะ นนทบุรีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2529 ซึ่งในเวลานั้นพระองค์ทรงยากับพระ เจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าสูงสวัสดี

กรมหมื่นสุทธนารีนาถแล้วและทรงมีปฏิสัน ถารกับมองสุจาริณีวิวัชรวงศ์ ในขณะนั้นทรงมีพระธิดา ๑ พระองค์จะสู่แต่ พระเจ้าลงเธอพระองค์เจ้าโสมสวลีและทรงมี พระโอรส 4 พระองค์ที่จะส่วนจะหม่อม สุจาริณีวิวัชรวงศ์ บทพระราชทานสัมภาษณ์มีข้อความดังนี้ค่ะ การแต่งงานหรือการใช้ชีวิตร่วมกันมันเป็น

เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆและก็ไม่ใช่ เรื่องที่ตัดสินใจง่ายเร็วๆรายการที่มี ความสัมพันธ์กับผู้หญิงหรือผู้หญิงมีความ สัมพันธ์กับผู้ชายชั่วครั้งชั่วคราวหรือ ผ่านนั้นไม่ใช่ความรักหรือการมีชีวิตคู่ ที่แท้จริงชีวิตที่รักการหวานชื่นหรือแบบ เทพนิยายนั้นก็ไม่ใช่ของจริงแม้แต่ เทพนิยายหรือนิยายที่เราเขียนก็เขียน

เฉพาะชั่วครู่ชั่วยาม Once Upon a Time and จะ Live happily Ever After ก็เป็นการสรุปเฉยๆชีวิตคู่ก็มีทั้งความ เข้าใจซึ่งกันและกันมีความเชื่อและ อุดมการณ์อันเดียวกันในชีวิตแล้วการที่ ผู้หญิงผู้ชายสองคนมาใช้ชีวิตร่วมกันเป็น

คนเดียวกันเพราะฉะนั้นข้อดีข้อเสียความ สามารถต่างๆที่มีก็เอามาใช้ร่วมกันให้ เป็นประโยชน์และให้เป็นความสุขทั้งชีวิต การงานและชีวิตส่วนตัวคือต้องพึ่งพาอาศัย ซึ่งกันและกันอย่างมากโดยเฉพาะบุคคลที่มี ตำแหน่งหน้าที่การที่เลือกคู่ชีวิตมาหรือ

การใช้ชีวิตร่วมกับและก็ต้องเลือกบุคคล หรือต้องอยู่กับคนที่สามารถที่จะทำให้งาน ของเรา [เพลง] ก้าวหน้าไปด้วยดีพูดง่ายๆว่าเรื่องชีวิต คู่หรือเรื่องแต่งงานไม่ใช่ของเล่น และจะมาวางตามที่เราต้องการก็ไม่ได้ต้อง ช่วยกันสร้างต้องช่วยกันทะนุถนอมเพราะคน เราอยู่ด้วยกันก็ต้องมีทั้งสุขทั้งทุกข์

มีความขัดแย้งบ้างความดั่งใจบ้างแต่ความ ขัดแย้งกันต่างๆต้องไม่มาทำลายอุดมการณ์ หรือความเชื่อถือที่มีในชีวิตคือเราต้อง มีเป้าหมายเดียวกันในการเป็นบุคคลสำคัญ คู่ของ VIP จะต้องเป็นบุคคลที่สามารถทำ งานร่วมกันได้ทั้งต่อหน้าและลับหลังทั้ง

การกระทำทางกายและการกระทำทางใจเช่นกรณี อย่างไปทำงานต่างประเทศสำคัญมากถ้าเราจะ ไปคู่ของเราก็จะต้องเป็นบุคคลที่มองตากัน ก็รู้และการกระทำต้องคะซึ่งกันและกันเช่น ผัวก็ต้องคุยกับผู้ชายเมียก็ต้องคุยกับ เจ้าภาพไปยิงเรื่องมันต้องสัมพันธ์กัน ต้องรู้กันและโอกาสในการต่อรองในด้านต่าง ๆถ้าเผื่อคู่กันนี่นะจะช่วยการทำงานได้ดี

แต่ถ้าเผื่อไม่มีความเข้าใจกันถ้าเกิดทำ งานคู่กันถือเป็นผลเสียมากกว่าได้คำถาม อะไรที่เป็นจุดที่ทำให้ชีวิตคู่ไม่มีความ เข้าใจกันคะทรงรับสั่งว่าต้องมีความเข้า ใจซึ่งกันและกันอ่านใจซึ่งกันและกันได้มี ความเชื่อในการดำรงชีวิตเหมือนกันรสนิยม เหมือนกันและจะต้องมีเพื่อนที่ทั้งสอง

ฝ่ายยอมรับกันได้ไม่ใช่ผัวก็มีเพื่อน กลุ่มนึงเมียก็อีกกลุ่มนึงแล้วค่านิยมใน สังคมก็ต้องเหมือนกันแล้วในการแต่งงานถ้า เราเป็นคนธรรมดาเรายังมีเวลาที่จะปรึกษา มีเวลาที่จะขึ้นในระหว่างเดทกันจีบกันนี่ เราก็มีเวลาที่จะศึกษามีเวลาที่จะคิดอีก อย่างถ้าเบื่อคนแต่งงานหรือจะแต่งงานด้วย

อารมณ์หรือด้วยการถูกบีบบังคับได้เหตุ การณ์ต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายถ้า เผื่ออายุยังน้อยจะไม่เข้าใจว่าความรัก เป็นยังไงแต่

จะเอาความรักกับความหลงมาปนกันคือ Love มาปนกับพิณ fashioned Insulation ที่ อยู่ในสภาวะโมหะหรือหลงว่าจะต้องเป็น อย่างนั้นเป็นอย่างนี้แต่ปกติมันจะไม่ เป็นอย่างนั้นจริงๆอีกอย่างคือเรื่องความ รุนแรงของหนุ่มสาวทั้งด้านร่างกายเป็น เรื่องที่ทำให้เราต้องได้สรุปอะไรต่างๆ ก่อนเวลาอันควรนี่ปูทั่วๆไปนะไม่ได้เอ่ย ชื่อใครคำถามพระองค์ทรงมีทัศนคติเกี่ยว กับเรื่องครอบครัวอย่างไรรับสั่งว่าใน ฐานะอะไรล่ะในฐานะสามีแก่คะทรงรับสั่งว่า

ในฐานะ 3BB เราก็ต้องส่งนิ่งคิดไปชั่ว ครู่คือก็ต้องแล้วแต่ภรรยาเป็นอย่างไรและ เราต้องการภรรยาอันไหนเก่าก็ต้องพยายามทำ ให้เขาเข้าใจในงานในหน้าที่ของเราและช่วย ในการทำงานหรือการดำรงชีวิตให้ได้ตามเป้า หมายแต่ในเวลาเดียวกันเราต้องฟังเขาเพราะ

ว่าการแต่งงานเหมือนลงเรือลำเดียวกันจะ เอาแต่ความคิดเห็นของเราอย่างเดียวโดยไม่ ฟังความคิดเห็นหรือไม่ปรึกษาหารือกันก็ ไม่ได้ในการวางตัวก็ควรจะวางตัวให้เขา ช่วยถือได้เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกแต่ถ้า เผื่อเราได้คู่ที่ไปกันได้เข้าใจกันก็ไม่ ต้องตอบในลักษณะนี้เพราะว่ามันเป็นไปตาม อาการเราจะรู้ว่าเราจะได้คู่ถูกต้องหรือ

ไม่ถูกต้องต้องพิจารณาว่าความชอบพอการใน ลักษณะผู้หญิงผู้ชายสัมพันธ์กันไหมความ ชอบพอการในลักษณะสติและอารมณ์สัมพันธ์กัน ไหมและเราควรจะต้องเห็นใจหรือต้องมานั่ง คิดหรือเห็นใจในความอดทนหรือในความเสีย สละที่ของดีต่อเราเราเห็นใจเข้าหรือเปล่า

เราตามใจเขาบ้างหรือเปล่าหรือเราให้ความ สำคัญเลือกตั้งหรือเปล่า อย่างที่กล่าวไปแล้วค่ะว่าพระองค์รับสั่ง ไว้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2529 ซึ่งถึงแม้ว่าพระองค์จะพระราชทาน สัมภาษณ์ครั้งนี้ไปเมื่อ 35 ปีที่ผ่านมา แต่หลักการที่ทรงพระราชทานสัมภาษณ์ไว้ใน เรื่องการแต่งงานและชีวิตคู่ในพระราชดำริ

ก็ยังคงเป็นหลักการเดิมที่จะองค์ทรงยึด มั่นไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงหน้าจะอาจเป็น เหตุผลที่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมและลงตัว จึงทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินีให้ส่งเป็น คู่ชีวิตคู่พระบารมีของพระองค์ในการที่จะ ส่งสื่อสารรักษาและต่อยอดถ้าราชปณิธานของ พระราชบิดาและ Visit ขณะดำรงตำแหน่งโน้ท

CR: https://youtu.be/4t1uMrhflu4